Thursday, July 14, 2011

เจาะใจ 3 คนสำคัญเบื้องหลัง แห่ง ภาพยนตร์ คนจนผู้ยิ่งใหญ่ - เอกลักษณ์ อนันตสมบูรณ์

เจาะใจคนที่ 2:     เจาะใจ เอกลักษณ์ อนันตสมบูรณ์ (เจ๋ง) 1 คนสำคัญ ใน ทีมงาน ปลาเป็นว่ายทวนน้ำ



เจ๋ง ชื่อของผู้ชายคนนี้ เอกลักษณ์ อนันตสมบูรณ์ เรามาดูกันว่าจะ เจ๋ง สมชื่อหรือไม่ปัจจุบันเขาเรียน ปริญญาโท ภาพยนตร์และทำงานกับทีมปลาเป็นว่ายทวนน้ำ ทั้งยังมีหน้าที่ตัดต่อและเป็นผู้ช่วยผู้กำกับ สำหรับการทำงานในทีมปลาเป็นว่ายทวนน้ำ เขาได้เข้ามาอยู่ประมาณเกือบ 2ปีแล้ว

ครั้งแรกกับการทำงานในทีมปลาเป็นฯ คือ ภาพยนตร์ คนจนผู้ยิ่งใหญ่ โดยการชักชวนของ พี่สืบ บุญส่ง นาคภู่ (ผู้กำกับ) ซึ่งมาทำตำแหน่ง หาอุปกรณ์ประกอบฉาก ถ้าถามว่าไปรู้จักกับพี่สืบได้ไง ตอนนั้นเรียนปริญญาโทที่เดียวกัน เรียนภาพยนตร์ที่เกษมบัณฑิตก็เลยรู้จักกัน
อย่างการทำงานกับผู้กำกับ พี่สืบ บุญส่ง  นาคภู่ ในกองนี้ผมทำหน้าที่ 2 อย่าง คือ ส่วนของ  โปรดักชั่น ผมเป็นคนหาอุปกรณ์เข้าฉากกับตัดต่อ พี่สืบเขามีภาพในหัวชัด ก็เลยทำงานไม่ค่อยติดอะไรเลย แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้แล้วก็สามารถที่จะกำกับชาวบ้านที่ไม่เคยเล่นหนัง ไม่ใช่นักแสดง ไม่เคยผ่านจอมาก่อนได้ ผมว่าพี่เขาเก่ง เขาจะมีทฤษฎี แอคติ้งของเขาเอง ตอนนี้เขาเหมือนกับว่า เขาต้องการพิสูจน์ทฤษฎีของตัวเองอยู่ ทำหนังไปเรื่อยๆ แล้วก็พิสูจน์ว่ามันจะนำมาใช้กับชีวิตได้ทุกอย่างหรือป่าว เขาก็เหมือนเป็นครูของผมนะ คอยสอนทุกอย่างกับผมจากที่ผมไม่เคยตัดต่อ ทำไม่เป็นเลย ตอนนี้ก็พอจะไปวัดไปวาได้

สำหรับภาพยนตร์ คนจนผู้ยิ่งใหญ่ เรื่องนี้พี่สืบเป็นนายทุนเองทั้งหมด ก็เลยอาจจะไม่ค่อยสะดวกสบายซักเท่าไร งบในการโปรดักชั่นน้อยเมื่อเทียบกับหนังใหญ่เรื่องอื่น การทำงานในกองก็ไม่ได้ยากแต่ลำบากเท่านั้นเอง เพราะต้องถ่ายท่ามกลางอากาศร้อนมาก ตอนนั้นถ่ายเดือนพฤษภาคม เวลาถ่ายก็จะตื่นตี5 ถ่ายได้ถึง 11โมง ก็ต้องพักกองเพราะมันร้อนมาก ทั้งกล้องทั้งคนร้อนสู้ไม่ไหว ก็เลยต้องหยุดพัก ประมาณบ่าย3โมงเย็น ก็ออกมาถ่ายต่อเป็นอย่างนี้ทุกวัน บางทีร้อนจนต้องพักกองชวนกันไปกระโดดน้ำตกกันเลยก็มี  ทีมงานกองนี้เป็นมืออาชีพหลายคน หน้าที่ทุกอย่างก็เลยกระจายๆไม่ยากมากมีอะไรก็ช่วยๆกัน


ผมว่าการถ่ายหนังอินดี้ ต้องใช้ความเป็นมืออาชีพมากกว่าหนังทั่วไปซะอีก หนังทั่วไปเขาใช้เงินอุดช่องโหว่ต่างๆ แต่ของเราทุกอย่างเป็นมีแต่ข้อจำกัด ถ้าคนไม่เป็นงานนี่จบเลย แก้ปัญหาที่เข้ามาไม่ได้แน่  ส่วนนักแสดงก็เป็นญาติกับผู้กำกับทั้งนั้น โลเคชั่นก็เป็นละแวกบ้านเกิดของบ้านผู้กำกับ ทุกอย่างก็เลยง่าย ตอนถ่ายขับรถไปเรื่อยๆ เจอที่ไหนสวยก็หยุดถ่าย เพราะพี่สืบ ผู้กำกับเขาจะนึกภาพไว้หมดแล้วเพราะเขาชินตากับสถานที่บ้านเขา

หนังเรื่องนี้จะเรียกว่าเป็นหนังอินดี้ ก็ได้นะ เพราะไม่ใช่หนังกระแสหลัก หนังกระแสหลักเขาไม่เอานักแสดงตัวดำๆ หน้าดำๆ หรือชาวบ้านๆมาแสดง เนื้อเรื่องก็เป็นเรื่องธรรมดา ๆ ไม่หวือหวา
 หนังคนจน เป็นหนังเกี่ยวกับการดิ้นรนของคนตัวเล็กๆ เป็นความฝันของคนรากหญ้าจริงๆ ความจน ก็เลยยากลำบากหน่อย พระเอกหนีความวุ่นวายในกรุงเทพฯ กลับมาอยู่บ้าน หวังว่าจะใช้ชีวิตเรียบง่ายที่บ้านแต่แต่มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ส่วนลูกชายอยากเป็นนักร้องเพลงเพื่อชีวิต พยายามดิ้นรนด้วยวิธีต่างๆนานา ละครอื่นๆที่เข้ามาเกี่ยวข้องก็ล้วนแต่มีความฝันที่ต้องใขว่คว้าทั้งนั้น หนังเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องความฝันของคนตัวเล็กๆ แต่วต้องมาเจอกับอุปสรรค เพราะว่า “ความจน”

 สำหรับใครที่มีโอกาสไปดู หนังเรื่องนี้ ก็จะได้ซึมซับกับบรรยากาศชนบท จะเห็นความจริงของชนบทว่าเป็นยังไง ตัวละครพูดกันไม่มีตกแต่งกับคำพูด ธรรมชาติๆ แล้วยังเป็นหนังที่สร้างจากหัวใจของคนคนนึง ที่รวมเอาหัวใจของทีมงานคนอื่นเข้าไปด้วย

พวกเราทุกคนตกลงใจช่วยพี่เขาทำหนังเรื่องนี้เพราะพี่เขาบอกว่า ถ้าเขาไม่ได้ทำเขาคงตายตาไม่หลับแน่      ผมก็ได้เห็นกับตามาแล้ว ว่าเขาทำสุดชีวิตจริงๆ 

โดย จ๊ะจิงจา


No comments:

Post a Comment